คิดผิดชีวิตเปลี่ยนแปลง ! 4 หน้าแข้งสุดยอดอาชีพพังทลายข้างหลังตกลงใจย้ายกลุ่ม
ครั้งคราวชีวิตของมนุษย์จะต้องเลือกอย่างมีสติสัมปชัญญะ แล้วก็ตริตรองให้รอบรอ เนื่องจากว่าเมื่อตกลงใจไปแล้วมันยากที่จะปรับแต่ง โดยยิ่งไปกว่านั้นนักเตะอาชีพ ถ้าเลือกที่จะย้ายกลุ่มแบบไม่คิดหน้าคิดข้างหลังให้ดีๆชีวิตของพวกเขาบางครั้งอาจจะจำเป็นต้องดับวูบในแวดวงลูกหนังเอาได้ไม่ยาก
ตลอดตอนหลายสิบปีที่ล่วงเลยไป มีนักบอลมากมายที่เกิดขึ้นมาเช่นเดียวกันกับดอกเห็ด บางบุคคลก็รุ่งเต็มที่ บางบุคคลก็ไปไม่สุด แม้กระนั้นสำหรับพวกนักฟุตบอลที่ผลงานเยี่ยมที่สุดชอบมีสมาคมยักษ์ใหญ่พร้อมทุ่มเงินดึงตัวไปเสริมเข้มแข็ง
สำหรับช่วงอย่างงี้นักฟุตบอลทุกคนจำต้องอุตสาหะคิดทบทวนอย่างละเอียด เพราะเหตุว่าแม้พวกเขาตกลงใจทำอะไรไปโดยอารมณ์ชั่ววูบ หรือเพียงแค่คลั่งไคล้กับรายได้พรั่งพร้อมที่กำลังจะได้รับ มันอาจจะส่งผลให้ชีวิตของพวกเขาพังทลายลงได้เลย
ฟิลิปกระเป๋า คูตำหนินโญ่ – หงส์แดง ไป บาร์เซโลน่า

ผู้นำกองทัพกลุ่มชาติบราซิล ใช้เวลา 5 ปีในถิ่นแอนฟิลด์ก่อนที่จะคิดที่จะตัดสินใจเดินตามฝันไปเล่นใ บาร์เซโลน่า ในปี 2018 โดยเขาย้ายไปเล่นในถิ่นคัมป์ นู ด้วยราคา 142 ล้านปอนด์ (ราว 6,248 ล้านบาท) แต่การย้ายกลุ่มคราวนี้มีความสลับซับซ้อนอย่างยิ่งเพราะว่ามีทั้งยังเรื่องบวกแล้วก็ลบ
"คูตี้" ทิ้ง "ลิเวอร์พูล" เพื่อไปคว้าชัยชนะซึ่งเขาก็ทำเป็นอย่างที่ฝันกับ บาร์ซ่า แล้วก็เวลาที่ย้ายไปเล่นแบบยืมตัวกับ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งในฤดูกาล 2019/2020 แต่ว่าการเล่นให้ "เจ้าบุญทุ่ม" ในระยะแรกเขาทำเป็น 11 ประตูจากการเล่น 18 เกมในตอนครึ่งฤดูกาลแรก ยิ่งกว่านั้นยังทำประตูในเกมนัดหมายชิง โกขว้าง เดล เรย์ ด้วย
อย่างไรก็แล้วแต่เมื่อจบฤดูแรก คูตำหนินโญ่ ยิงได้เพียงแค่ 11 ประตูกับ 5 แอสซิสต์ จากการลงสู่สนาม 54 แมตช์ในทุกรายการ ต่อไปนักฟุตบอลเปลี่ยนเป็นส่วนเกินของสมาคม รวมทั้งถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับ บาเยิร์น ซึ่งซัดไป 11 ประตูในฤดูกาลนั้น ที่สำคัญเขายังเป็นเลิศในหน้าแข้ง "เสือใต้" ชุดที่แออัดยัดเยียดความปราชัยให้ บาร์ซ่า 8-2 ในส.ค.ปี 2020

ผู้เล่นคนสำคัญเลือดบราสิเลียน ไม่เคยได้ลงเล่นเต็ม 90 นาทีในฤดูกาลนี้ภายหลังจากมีปัญหาเจ็บเรื้อรังมาตั้งแต่ฤดูกาล 2020/2021 แล้วก็ดูเหมือนจะโดนลอยแพในตอนตลาดพ่อค้าหน้าแข้งซัมมเมอร์นี้ แม้กระนั้นน่าไม่น่าเชื่อที่ไม่มีกลุ่มไหนพึงพอใจอยากได้ตัวเขาไปร่วมกลุ่มเลย
ถึงแม้ว่า คูว่ากล่าวนโญ่ จะคว้าชัยชนะได้อย่างที่มุ่งมาดปรารถนาแต่ว่าการไปเล่นในถิ่นคัมป์ นู มิได้ทำให้เขาสุขสบายเลย สวนกับ หงส์แดง ที่ได้นำเงินค่าตอบแทนของนักฟุตบอลไปซื้อ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ รวมทั้ง อลีสซง เบ็คเกอร์ ก่อนที่จะนักฟุตบอลทั้งคู่คนจะออกดอกผลนำ พบร์เก้น คล็อปป์ คว้าชัยชนะ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และก็ตามด้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก
ในขณะที่ คูติเตียนนโญ่ ในเวลานี้มีรายงานออกมาอย่างสม่ำเสมอว่า บาร์ซ่า ต้องการขายเขาทิ้งดวงใจจะขายอยู่แล้ว แล้วก็คาดว่าชมรมที่พร้อมทุ่มเงินซื้อเขาก็คือ นิวติดอยู่สเซิ่ล ยูไนเต็ด ในตอนตลาดนักฟุตบอลหน้าหนาวม.ค.ปีถัดไป
ดินแดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ – เลสเตอร์ สิตี้ ไป เชลซี

นายน้ำกิน เคยออกมาเห็นด้วยเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่าคิดผิดที่ย้ายไปเล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อปี 2017 เนื่องจากเขาแทบจะไม่มีส่วนร่วมกับสมาพันธ์เลย แล้วก็จะต้องใช้เวลาอยู่กับการโดนส่งไปเล่นแบบยืมตัวตลอด
ดริงค์วอเตอร์ มีดีกรีติดกลุ่มชาติอังกฤษ 3 แมตช์ โดยในตอนพีคของอาชีพเขาเป็นหนึ่งในขุมพลสุดสำคัญที่นำ เลสเตอร์ สิตี้ สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการได้แชมป์พรีเมียร์ลีก ในปี 2016 ก่อนที่จะได้โอกาสได้สัมผัสเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ในปีต่อมา และก็ตกลงใจโยกไปเล่นให้ เชลซี ด้วยราคา 40 ล้านปอนด์ (ราว 1,760 ล้านบาท)
ตามแนวทางแล้ว มิดฟิลด์เลือดผู้ดี วัย 31 ปี ยังคงเป็นผู้เล่น "สิงห์บลูส์" ถึงแม้ปัจจุบันนี้จะถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับ เรดดิ้ง ในศึกแชมเปี้ยนชิพ ก่อนที่จะข้อตกลงของเขาจะสังกัดเดิมแม่จะหมดลงในตอนซัมเมอร์หน้า

ชีวิตกับ เชลซี ไม่มีอะไรดีเลย เนื่องจากว่าเขาถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวอีกทั้งกับ เบิร์นลี่ย์, แอสตัน วิลล่า และก็ ติดอยู่ซิมขว้างซ่า ในตอนที่กิจการค้าลำแข้งกับ "สิงโตสีน้ำเงินคราม" นักฟุตบอลได้ลงไปในสนามเพียงแค่ 12 เกมลีก แล้วก็ 23 แมตช์ในทุกรายการ กระนั้นก็ยังได้แชมป์เอฟเอ คัพ ในปี 2018
ในตอนที่อยู่กับ วิลล่า เขาเคยเฮดบัตต์ใส่สหายร่วมกลุ่ม รวมทั้งตนอยู่ เบิร์นลี่ย์ ก็มีเรื่องมีราวทะเลาะวิวาทนอกไนท์คลับ, มีปัญหาเจ็บข้อเท้า และก็ยังถูกแบนขับขี่รถ 2 ปีในปี 2019 ด้วยเหตุผลดังกล่าวเห็นได้ชัดว่าชีวิตของเขามีแม้กระนั้นสาละวันเตี้ยลงตั้งแต่แมื่อออกมาจากถิ่นคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม
จังหวะของเขากับ เชลซี อาจจะไม่มีเหลืออีกแล้ว แต่ว่าการเล่นให้ เรดดิ้ง อาจทำให้ ดริงค์วอเตอร์ กลับมามีอาชีพที่แจ่มใสในตอนตอนปลายพ่อค้าหน้าแข้ง แล้วก็คงจะทำให้ชีวิตนักฟุตบอลของเขามองมีคุณค่ามากเพิ่มขึ้น
ไม่ราเล็ม ปานิช – ยูเวนตุๆส ไป บาร์เซโลน่า

ปานิช ลงจากอาน "ม้าลาย" ไปเล่นให้ บาร์เซโลน่า เมื่อตอนซัมเมอร์ ปี 2020 ด้วยค่าตอบแทนในพื้นฐาน 60 ล้านยูโร (ราว 2,280 ล้านบาท) แม้กระนั้นการย้ายกลุ่มครั้งมีสร้างความเจ็บให้กับนักฟุตบอลอย่างยิ่ง เนื่องจากเขาแทบจะมิได้มีส่วนอะไรกับ "เจ้าบุญทุ่ม" เลย
มิดฟิลด์ชาวบอสเนีย ลงไปในสนามเป็นตัวจริง 12 แมตช์ในทุกรายการ และก็ลงเล่นในเกมลา ลีกา เพียงแค่ 6 แมตช์แค่นั้น ในสมัยที่ โรนัลด์ คูมัน จับบังเหียนบาร์ซ่า เมื่อฤดูกาลก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ปานิช ได้รับการชื่นชมว่าเป็นเยี่ยมในกองกลางตัวรับที่เก่งที่สุดในโลก

แม้ว่าจะมิได้ผุดได้กำเนิดกับ บาร์เซโลน่า แม้กระนั้นก็มีหลายสมาคมชั้นหนึ่งอย่าง บาเยิร์น มิวนิค, กรุงปารีส แซงต์-แชร์กแมง, เชลซี และก็ อาร์เซน่อล รวมถึง ยูเว่ สังกัดเดิมเดิม อยากได้ตัวเขาไปเสริมกองทัพในตอนตลาดจำหน่ายนักฟุตบอลซัมเมอร์ปัจจุบัน แต่ว่าในที่สุดเจ้าตัวเลือกซบ เบสิคตัส ท้ายที่สุด
ครึ่งเดียว ปานิช เคยมีชื่อเสียงว่ามีสไตล์การเล่นที่ละม้ายกับ อันเดรีย ปิร์โล่ แต่ว่าชีวิตของเขาจำเป็นต้องผกผลันเนื่องจากการเป็นสมาชิกของคูมัน และก็มั่นใจว่าถ้าหากวันนั้น บาร์ซ่า มีผู้จัดการทีมบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ "พี่บึ้ก" ไม่แน่ว่า จอมบุกวัย 31 ปี บางครั้งอาจจะยังเป็นหน้าแข้ง "เจ้าบุญทุ่ม" อยู่ และก็บางทีอาจจะแสดงสมรรถนะที่จริงจริงออกมาเสมือนตอนเล่นให้ ยูเว่ ก็ได้
ออสการ์ – เชลซี ไป เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี

จำเป็นต้องสารภาพว่าการย้ายกลุ่มของ ออสการ์ สร้างความงุนงงให้กับคอลูกหนังเป็นอย่างมาก เพราะว่าเขาเลือกโบกไม้โบกมือลาหนึ่งในชมรมยักษ์ใหญ่แวดวงลูกหนังโลกอย่าง เชลซี เพื่อไปเล่นให้กับ เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี สมาพันธ์ไชนีส ซูเปอร์ลีก โดยกลุ่มดังดินแดนมังกรยอมจ่ายค่าชดเชยให้ "สิงห์บลูส์" 54 ล้านปอนด์ (ราว 2,376 ล้านบาท)
นอกเหนือจากนั้นมีข่าวซุบซิบออกมาว่าปัจจัยที่ ออสการ์ ยอมไปค้าลำแข้งในดินแดนบะหมี่ก็เนื่องจากได้รับค่าแรงงานเป็นอย่างมากถึง 400,000 ปอนด์ (ราว 17.6 ล้านบาท) ต่ออาทิตย์….แล้วอย่างงี้ใครกันแน่มันจะข่มใจไหมละ !!
ออสการ์ มีดีกรีระดับครอบครองแชมป์พรีเมียร์ลีก, ยูโรปา ลีก แล้วก็ ติดอยู่ราบาว คัพ กับ เชลซี พร้อมสถิติซัดไป 38 ประตูจากการลงไปในสนามให้ยอดกลุ่มที่เวสต์ ลอนดอน ปริมาณ 203 เกม

การเลือกย้ายไปเล่นให้กับ เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี บางทีอาจจะดูอย่างกับว่าเขาบรรลุผลสำเร็จเมื่อซัดไปถึง 102 ประตูจากการลงในสนาม 105 แมตช์ แต่ว่าอันที่จริงแล้วการไปเล่นในลีกดินแดนมังกรเสมือนเป็นการทำลายอาชีพนักฟุตบอลของเขาไปอย่างสิ้นเชิง
ถ้าหากจำกันได้ขณะที่ ออสการ์ เล่นกับ เชลซี เขามีชื่อติดกลุ่มชาติบราซิล และก็ยังเป็นแม่ทัพหลักของกองทัพ "เซเลเซา" มาตลอด ฟอร์มการเล่นก็นับว่าดีเลิศในศึกบอลโลก 2014 ก่อนจะโดน เยอรมนี แออัดความแพ้พ่ายแบบชอกช้ำระกำใจ
ออสการ์ มีชื่อติดกลุ่มชาติคราวสุดท้ายเมื่อต.ค.ปี 2016 ต่อจากนั้นชื่อของเขาก็หายไปจากสารบบกลุ่มกองทัพแซมบ้า ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเหตุว่าการเล่นในลีกจีน ประกอบกับ บราซิล มีนักเตะชั้นเยี่ยมผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ทำให้เขาเปลี่ยนเป็นลำแข้งที่ถูกลืมไปโดยปริยาย
ทอมเม้ง
