แมนยูสนไหม? 5ผู้จัดการทีมที่เหมาะสมย้ายมาคุมกลุ่มใหญ่ เปิดรายนาม 5 ผู้จัดการทีมฟุตบอลยอดความสามารถที่รอเวลาที่ก้าวขึ้นมาคุมกลุ่มใหญ่ในอนาคต ภายหลังพาสังกัดเดิมทำผลงานได้น่าประทับใจ
ในโลกลูกหนังช่วงปัจจุบันมีผู้จัดการทีมมากมายความสามารถมากไม่น้อยเลยทีเดียวโดยยิ่งไปกว่านั้นบรรดาบิ๊กกลุ่มในยุโรปที่ต่างลงทุนดึงขงเบ๊งพวกนี้มากุมบังเหียนเพื่อนำกลุ่มไปสู่การบรรลุผล
อย่างไรก็ดียังมีผู้จัดการทีมฟุตบอลฝีมือเยี่ยมอีกมากมายที่มิได้อยู่กับชมรมระดับท็อปแม้กระนั้นสามารถพาทีมทำผลงานได้น่าประทับใจ รวมทั้งนี่เป็น 5 ผู้จัดการทีมฟุตบอลที่เหมาะสมที่จะก้าวขึ้นไปคุมกลุ่มใหญ่ในอนาคตอันใกล้
5.คริสโคนฟ กัลว่ากล่าวเย่ร์ (นีซ)
แม้ว่าจะมีประสบการณ์คุมกลุ่มเพียงแต่ 3 สมาคมในอาชีพผู้จัดการทีมฟุตบอลแต่ว่าความสามารถการควบคุมกลุ่มของเขาไม่ธรรมดา โดยภายหลังจากเจ้าตัวเริ่มคุม แซงต์ เอตียน ตั้งแต่ปี 2009-2017 พาทีมครองแชมป์เฟร้นช์ ลีก คัพ ได้ 1 ยุค
ต่อไปผู้จัดการทีมฟุตบอลวัย 54 ปีก็โยกมาคุม ลีลล์ แล้วก็พาทีมยกฐานะผลงานดียิ่งขึ้นเป็นลำดับปลุกปั้นดาวรุ่งฝีเท้าดียิ่งขึ้นมามากไม่น้อยเลยทีเดียว กระทั่งพาทีมผงาดคว้าชัยชนะลีก เอิง ประเทศฝรั่งเศส เมื่อฤดูที่ผ่านแบบเซอร์ไพรส์
จนถึงในช่วงฤดูกาลนี้ผู้จัดการทีมฟุตบอลเลือดน้ำหอมจะโยกมาคุม นีซ แล้วก็สามารถพาทีมยกฐานะขึ้นมาได้อย่างสุดเซอร์ไพรส์ด้วยการรั้งชั้น 4 ของตาราง มีลุ้นพาทีมคว้าตั๋วฝ่าบอลยุโรปในช่วงฤดูกาลหน้าในขณะที่บรรดาผู้เล่นในกลุ่มเกือบจะไม่มีสตาร์ตกแต่งกลุ่มเลย ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความสามารถกระบวนการทำกลุ่มของเขาแค่ไหน
4.เซร์คิโอ คอนไซเซา (ปอร์โต้)
ผู้ฝึกสอนชาวโปรเหม็นตุกีสได้รับการตั้งชื่อให้เป็น "นิว โชเซ่ มูรินโญ่" ภายหลังเจ้าตัวเข้ามาเปลี่ยนแปลง เอฟซี ปอร์โต้ ให้เปลี่ยนเป็นกลุ่มที่น่าเร้าใจอีกที โดยเข้ามาสานงานต่อจาก นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ ที่ย้ายไปคุม วูล์ฟหมูแฮมป์ตัน
การเข้ามาของผู้ฝึกสอนวัย 46 ปี สามารถพา เอฟซี ปอร์โต้ กลับมาผงาดครองแชมป์ลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ในช่วงฤดูกาล 2017-18 ต่อด้วยอีกหนึ่งยุคในช่วงฤดูกาล 2019-20 โดยถึงในขณะนี้เขามีสถิติคุมกลุ่ม 229 นัดหมายและก็ชนะไปได้ถึง 163 เกม
สำหรับสไตล์การควบคุมกลุ่มของ คอนไซเซา นั้นเน้นย้ำการบีบเพรสซิ่งสูงด้วยระบบการเล่น 4-4-2 โดยเน้นย้ำการต่อบอลกับพื้นรวมทั้งเข้าทำแบบเร็ว โดยเคยพาทีมทะลุเข้าถึงรอบก่องรองชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกมาแล้วถึงสองคราวก่อนจะไปแพ้ต่อ หงส์แดง แล้วก็ เชลซี เป็นลำดับ
3.โธมัส แฟรงค์ (เบรนท์ฟอร์ด)
หากต้องการจะให้กล่าวถึงชื่อผู้จัดการทีมฟุตบอลที่กำลังได้รับการจับตาเดี๋ยวนี้ชื่อของ โธมัส แฟรงค์ จะต้องเป็นหนึ่งในนั้น ภายหลังจากสามารถพา เบรนท์ฟอร์ด เลื่อนชั้นกลับขึ้นสู่ลีกสูงสุดได้กระเป๋านครั้งแรกในรอบ 74 ปีหรือนับจากฤดู 1946-1947 อย่างยิ่งจริงๆ
อย่างไรก็ดีหากแม้ที่ปรึกษาวัย 48 ปี จะมิได้มีประสบการณ์คุมกลุ่มมามากมายนัดหมาย แต่ว่าเขากลับพา "เดอะ บีส์" สร้างผลงานสุดเซอร์ไพรส์ได้บนลีกสูงสุดแปลงเป็นกลุ่มสมาชิกใหม่ที่รุนแรงที่สุดด้วยการขึ้นมารั้งที่ 9 ของตารางในขณะที่กลุ่มมิได้มีผู้เล่นดาวดังอย่างกับกลุ่มอื่นๆ
สำหรับสิ่งที่ทำให้ แฟรงค์ ได้รับเสียงยกย่องอย่างยิ่งเป็นการเล่นเกมรุกอย่างสนุกสนานดุเดือดประมือกับกลุ่มยักษ์ใหญ่ได้อย่างใกล้เคียง โดยในฤดูกาลที่แล้วพวกเขาสามารถทำเป็นถึง 79 ประตู เปลี่ยนเป็นกลุ่มที่ทำคะแนนได้มากที่สุดของ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ประจำฤดูนั้น
2.สตีเว่น พบร์ราร์ด (เรนเจอร์ส)
ตำนานที่ถิ่นแอนฟิลด์ผันตัวมารับงานที่ปรึกษาเป็นครั้งแรกกับ เรนเจอร์ส ตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งเจ้าตัวก็ใช้เวลาเพียงแค่ 2 ปีแค่นั้นสำหรับในการพาทีมกลับไปนั่งบัลลังก์แชมป์ลีกของประเทศแทนที่ เซลว่ากล่าวก อริร่วมเมืองเมื่อฤดู 2020-21 ได้เป็นอย่างมากใหญ่จากการนำกลุ่มซิวแชมป์ลีกแบบไม่มีแพ้ตลอดทั้งฤดู พร้อมสร้างสถิติคุมกลุ่มเข้าเส้นชัยเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของลีกสกอตต์ด้วยเหมือนกัน
ดังนั้นทำให้ผู้จัดการทีมฟุตบอลวัย 41 ปี แปลงเป็นที่ชอบของหลายชมรมที่จ้องมองพรากตัวไปคุมกลุ่ม แต่เป็นที่เช้าใจกันว่าอดีตกาลกองกลางกลุ่มชาติอังกฤษกำลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อรอเวลากลับไปรับงานคุมสมัยก่อนสังกัดเดิมอย่าง หงส์แดง ภายหลังบรรดาสาวก "เดอะ ค็อป" อยากให้ไปเป็นผู้แทนของ พบร์เก้น คล็อปป์ แม้ล่ำลากลุ่มไปในอนาคต แม้กระนั้นกว่าใกล้จะถึงในตอนนั้นอาจจะเป็นผลให้นายใหญ่วัย 41 ปีเลือกไปเผชิญภัยกับกลุ่มอื่นชั่วครั้งชั่วคราวไปก่อนก็ได้
1.เอริค เทนฮาร์ก (อาแจ็กซ์)
นับจากที่ผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวฮอลแลนด์วัย 51 ปี เข้ามาคุม อาแจ็กซ์ เขาสามารถพาทีมครองแชมป์เอเรดิวิซี่ได้ 2 ยุค รวมทั้งพาทีมทะลุเข้าถึงรอบตัดเชือกบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อฤดู 2018-19 ได้อีกด้วย โน่นก็เลยทำให้เขาแปลงเป็นอีกหนึ่งผู้จัดการทีมเนื้อหอมที่กลายเป็นข่าวสารเชือมโยงกับกลุ่มชั้นแนวหน้าในยุโรป
เทนฮาร์ก นับว่าเป็นผู้จัดการทีมที่ที่มีไสตล์แนวทางการทำกลุ่มที่น่าระทึกใจย้ำการเล่นเกมรุกรวมทั้งการเข้าทำที่งาม แถมยังปลุกปั้นดาวรุ่งขึ้นมาแจ้งกำเนิดกระทั่งสามารถขายได้กำไรให้กับชมรมมาแล้วนับไม่ถ้วน
อย่างไรก็ดีถึงแม้ อาแจ็กซ์ จะเสียผู้เล่นตัวหลักออกไปในทุกๆปี แม้กระนั้นผลงานของพวกเขากลับมิได้ดร็อปลงไปเลย เป็นกลุ่มที่ยังมีลุ้นแชมป์ลีกในทุกๆปี แล้วก็ชอบผ่านเข้ารอบลึกๆในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้อยู่เสมอ