เปิดใจ2บิ๊กกลุ่มจังหวัดนครราชสีมา…ผู้ใดกันแน่จุดประกายบอลลีกไทยพีคสุดขีด กลุ่มชาติจะดีไหมขึ้นกับลีก ปฎิเสธมิได้ว่า บอลลีกไทยปัจจุบันผ่านจุดที่เรียกว่า พีคเต็มที่ มาแล้ว เปรียบได้เสมือนดั่งเส้นแผนภูมิที่ขึ้นถึงระดับสูงสุด และก็กำลังดาวตรงตกลงมาแบบที่ไม่รู้เรื่องว่าจะหันหัวกลับไปสูงสุดอีกเมื่อไร
คณะทำงานบอลประเทศไทยรายวัน ได้มีการคุยกับ "ฯพณฯ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ" อดีตกาลรองนายกฯ และก็ อดีตกาลรัฐมนตรีว่าการ 3 กระทรวง ที่ยุคครองตำแหน่งรองนายกฯ มีบทบาทควบคุมดูแลและก็บริหารจัดแจงเรื่องกีฬาโดยตรง รวมทั้งได้มีการสนทนากับ "บังยี"วรวีร์ มะเราดี สมัยก่อนเมมเบอร์สมาคมสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างชาติรวมทั้งสมัยก่อนนายกสโมสรกีฬาบอลฯที่นับว่าเป็นผู้ผลิตลีกไทยให้มีความแข็งแกร่งขึ้นมาเมื่อตอน 10 กว่าปีที่ผ่านมา โดยทั้งสองได้เปิดเผยถึงจุดเริ่มแรกที่เป็นเสมือนการจุดประกายให้บอลลีกไทยมีความกระตือรือร้นอย่างถึงที่สุด
ฯพณฯ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ เล่าให้ฟังว่า "จำเป็นต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2006 ซึ่งเป็นปีที่เริ่มมีการริเริ่มบอลลีกไทย ผมขณะนั้นที่ปฏิบัติภารกิจรองนายกฯดูแลดูแลประเด็นการปรับปรุงกีฬาพอดิบพอดี และก็ได้ได้โอกาสไปดูงานกับคุณวรวีร์ มะฉันดี สำหรับในการชิงชัยบอลโลกรอบท้ายที่สุดปี 2006 ที่เยอรมัน และก็พวกเราก็ได้มีการสนทนารวมทั้งปรึกษาหารือกับ ฟรานซ์ เบคเคนบาวเอ้อร์ ตำนานนักฟุตบอลระดับนานาชาติของเยอรมันที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานดูแลการประลองบอลโลก2006ด้วย"
"บรรยากาศบนโต๊ะอาหารที่ได้มีการสนทนากับ ฟรานซ์ เบคเคนบาวเอ้อร์ ซึ่ง ฟรานซ์ บอกให้เราได้รู้ว่า การที่กลุ่มชาติจะดีได้ เป็นควรจะมีลีกที่กล้าแกร่ง นี่เป็นจุดกำเนิดที่สำคัญของบอลลีกไทย เนื่องจากว่าคนประเทศไทยถูกใจมองบอลมากมายๆรวมทั้ง ฟรานซ์ ก็บอกเราว่า ให้กลับไปทำให้บอลลีกไทยมีความแข็งแกร่ง แล้วกลุ่มชาติจะแกร่งตาม โดย ฟรานซ์ ได้ชี้แนะในรูปแบบนี้ให้กับ ประเทศญี่ปุ่น แล้วก็ ประเทศเกาหลีใต้ ในสมัยแรกๆที่อีกทั้ง 2 ชาติยังมิได้ไปบอลโลกเลยด้วย"
"กลับมาจากบอลโลก2006 ผมก็เริ่มกลับมาจัดรูปแบบปรับปรุงบอลลีกอาชีพไทย โดยเริ่มจากมีกองทุนกีฬาเพื่อนำมาสร้างลีกอาชีพ รวมทั้งเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่า สิ่งที่ ฟรานซ์ เบคเคนบาวเอ้อร์ ได้เสนอแนะพวกเรามาในวันนั้นเป็นข้อเท็จจริง ความแข็งแกร่งของไทยลีกหรือลีกไทยเป็นความแข็งแรงของกลุ่มชาติไทยอย่างชัดเจน"
คุณวรวีร์ มะเราดี หรือ "บังยี" อดีตกาลนายกสโมสรกีฬาบอลที่เมืองไทย กล่าวมาว่า "ผมว่าพวกเราอาจไม่ต้องกล่าวว่า บอลลีกตอนไหนมีความน่าดึงดูดใจมากยิ่งกว่ากัน สมัยไหนใครกันแน่ทำอะไร ผมว่าคนแวดวงคงจะรับทราบรับรู้กันอยู่แล้ว ยุคที่ผมปฏิบัติภารกิจเป็นนายกชมรมฯ มีตอน 7 ปีที่ผมบริหารแล้วผมมอบสิทธิประโยชน์และก็รายได้ให้กับสมาคมสมาชิกอย่างมาก เนื่องจากชมรมฯมีบทบาทดูแลความเป็นอยู่ของสมาคมสมาชิก แล้วก็พวกเราจะต้องเคลื่อนไปร่วมกัน"
"ปี 2557 , ปี 2558 รวมทั้ง ปี 2559 เป็น 3 ปีที่ผมได้ค่าลิขสิทธิ์ปีละ 600 ล้านบาทจาก ทรูวิชั่นส์ และก็ปี 2557 สโมสรฯก็ได้เพิ่มค่าลิขสิทธิ์ให้สมาคมไทยลีกเลย จากปีละ 6 ล้านบาท เพิ่มเป็นปีละ 20 ล้านบาท"
"ปี 2557 กระแสบอลลีกไทยเป็นที่นิยมประเภทที่จะต้องพูดว่า ทั่วทั้งประเทศมีความสนใจบอลลีกไทยทุกระดับชั้น ผู้ครอบครองลิขสิทธิ์ก็ขอต่อสัญญาในทันที โดยพร้อมที่จะต่อเพิ่ม 4 ปี ในราคา 4,200 ล้านบาท เป็นปี 2560 , ปี 2561 , ปี 2562 รวมทั้ง ปี 2563"
"ปี 2560 จ่าย 900 ล้านบาท , ปี 2561 = 1,000 ล้านบาท , ปี 2562 = 1,100 ล้านบาท แล้วก็ ปี 2563 = 1,200 ล้านบาท รวมเป็น 4,200 ล้านบาท จนถึงประธานชมรมฯชุดใหม่ได้มีการเปลี่ยนผู้ถือลิขสิทธิ์ต่างๆไป และก็ตอนนี้ก็อย่างที่รู้ พวกเรายังไม่รู้จักว่าแต่ว่าละชมรมจะได้เงินลิขสิทธิ์มากแค่ไหนกันบ้าง"
"ตอนนี้ผมเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ประธานบริหารสมาพันธ์จังหวัดโคราช มาสด้า จากการชักนำของท่านสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รวมทั้งผมมีความผูกพันธ์กับกลุ่มจังหวัดโคราช มาสด้า ซึ่งเป็นกลุ่มต้นแบบของลีกภูมิภาคดิวิชั่น 2 ที่เป็นกลุ่มที่มาจากแคว้นนิยมอย่างเห็นได้ชัด แต่ว่าขณะนี้ก็มาประสบพบเจอกับปัญหาเรื่องเงินอุดหนุนจากสัมพันธ์ฯ ซึ่งผมก็มีความรู้สึกว่าทุกๆสมาคมคงจะพบเจอปัญหาเหมือนกันหมด กลุ้มอกกลุ้มใจในส่วนนี้มากมาย เงินอุดหนุนที่ได้มาก็ยังไม่ตรงตามเป้าที่ ส.บอลฯ เจาะจงเอาไว้ ช่วงนี้ได้แม้กระนั้นเห็นอกเห็นใจคนทำทีมทุกสมาคม เนื่องจากว่าเขาลงทุนลงแรงไปกันมากมาย แต่ว่าจะต้องสรรเสริญหัวจิตหัวใจของคนทำบอลยุคนี้ที่อยู่ด้วยใจจริงรักบอลไทยอย่างแท้จริง แม้ว่าจะประสบพบเจอปัญหาจำนวนมาก"