"วรวุฒิ-โชคทวี"จังหวะครั้งสำคัญแม่ทัพใหญ่ยู-23ไทย ภายหลังที่สโมสรกีฬาบอลฯได้มอบหมายให้ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสมาคมบอลการท่าเรือ เอฟซี สมัยก่อนประธานปรับปรุงบอลหญิง,ผู้จัดการกลุ่มบอลหญิงกลุ่มชาติไทย รับงานคุมกลุ่มชาติไทยชุดใหญ่ รวมทั้ง ชุดยู- 23 เป็นสตรีคนแรกที่ได้คุมกลุ่มชาติไทยชุดใหญ่กลุ่มชายในฐานะผู้จัดการกลุ่ม
โดยก่อนที่จะ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำได้เลือก "ผู้ฝึกสอนโย่ง" วรวุฒิ ศรีมะฆะ ให้เข้ามาทำทีมในฐานะผู้จัดการทีมใหญ่ ชุด ยู-23 แล้วก็ ให้ โชคทวี พระพรหมรัตน์ เป็นผู้ช่วยนั้น ถ้าหากย้อนไทม์ไลน์ กลับไปดู เมื่อสิงหาคม เหมือนกันเมื่อปี พุทธศักราช 2561 เมื่อ 28 เดือนสิงหาคม นั้น เป็นวันที่ "ผู้ฝึกสอนโย่ง" จะต้องแยกทางกับชมรมกีฬาบอลฯ ข้างหลังเขาพาทีมไม่เข้ารอบแรก เอเชียนเกมส์ 2018 ที่ อินโดนีเซีย เป็นการไม่เข้ารอบแรกในรอบ 24 ปีข้างหลังเคยไม่เข้ารอบแรกในเอเชียนเกมส์ ที่ ฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี คริสต์ศักราช 1994
สำหรับเอเชียนเกมส์ 2018 ที่ อินโดนีเซียนั้น ไทยจบชั้น 3 รอบแรก แบบแพ้คนใดกัน เสมอ 2 แพ้ 1 นัดหมาย จากผลงาน เสมอ กาตาร์ 1-1 , เสมอ บังคลาเทศ 1-1 ,แพ้ อุซเบกิสถาน 0-1 งานนี้จะต้องคอยลุ้นว่าการกลับมาจับบังเหียนกลุ่มชาติไทยอีกทีผลงานของ "ผู้ฝึกสอนโย่ง" วรวุฒิ ศรีมะฆะ จะโดนภาพเก่าหลอกหรือเขาจะพิสูจน์กึ๋นตนเองได้ว่ายังมีความรู้ความเข้าใจอยู่
ส่วนในรายของ "ผู้ฝึกสอนโชค" โชคทวี พระพรหมรัตน์ ที่เคยมีดราม่ากับ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ยุคที่ ผู้จัดการทีมฟุตบอลผู้ครอบครองสมญานาม "นกกระยางดำ" คุมกองทัพการท่าเรือ ในไทยลีก ฤดู 2020 ก่อนหน้านี้ เมื่อ 28 มี.ค.2563 นั้น ได้รับจังหวะจาก "มาดามแป้ง" อีกรอบสำหรับเพื่อการได้กลับมาทำทีมชาติ ข้างหลังเคยปะทะคารมกันอย่างมากมาแล้ว
ทำให้เห็นว่า" มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ไม่เคยถือโทษขุ่นเคืองแถมยังพร้อมมอบโอกาสได้กลับมาทำงานด้วยกันในภารกิจเพื่อชาติคราวนี้